Knowledge

สายแลน คืออะไร

สายแลน เป็นอุปกรณ์จำเป็นในการเชื่อมต่อโครงข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ อินเตอร์เน็ต จำเป็นที่จะต้องมีการใช้สายเชื่อมต่อสัญญาณอยู่หลายประเภท ซึ่งประเภทหนึ่งของสายสัญญาณที่จะต้องใช้เชื่อมต่อผ่านทาง Ethernet port จะเรียกกันว่า สายแลน (LAN Cable)

สายแลน (LAN Cable) หรือ UTP (Unshielded Twisted Pair) เป็นสายนำสัญญาณชนิดทองแดงที่นำมาตีเกลียว และ หุ้มฉนวน จะใช้ต่อระหว่างโครงข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ อินเตอร์เน็ต ผ่านทาง Ethernet port อย่างเช่น Switch หรือ Hub, Media Converter รวมทั้งสายแลนยังใช้ต่อกับอุปกรณ์ปลายทาง เช่น Modem, Router อีกด้วย

สายแลนมีกี่ประเภท

1. จำแนกตามลักษณะการใช้งานอย่างง่ายๆเลย อาทิเช่น สายแลน ใช้สำหรับภายในอาคาร (Indoor) และสำหรับภายนอกอาคาร (Outdoor) โดยสายที่ใช้สำหรับภายนอกอาคารจะมีเปลือกหุ้มด้านนอกที่แข็งกว่า และหนากว่าสายที่ใช้สำหรับภายในอาคาร และมีคุณสมบัติที่ทนต่อสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร

2. จำแนกตามลักษณะโครงสร้างและส่วนประกอบของสาย มีตั้งแต่สายที่มีฉนวนอย่างเดียว, สายที่มีมีฟอยล์หุ้มคู่สายทั้งหมด หรือมีฟอยล์หุ้มของแต่ละคู่สาย หรือสายที่มี Shield Braid เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน เป็นต้น

3. จำแนกตามประสิทธิภาพของการส่งข้อมูล
UTP CAT5 คือ สายแลนที่สามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 Mbps
UTP CAT5e คือ สายแลนที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1 Gpbs และมี BANDWIDTH มาตราฐานอยู่ที่ 150 Mhz.
UTP CAT6 คือ สายแลน ที่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น โดยสามารถส่งได้ที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gpbs และมี BANDWIDTH มาตราฐานอยู่ที่ 250 Mhz.
UTP CAT7 คือ จะสามารถส่งความถี่สูงถึง 600 MHz โดยระยะการส่งสัญญาณได้ในระยะ 100 เมตร ส่งสัญญาณความเร็วได้ 10 Gbps
UTP CAT8 คือ ความถี่ของสัญญาณได้สูงถึง 2 GHz (2000 MHz) โดยมีการจำกัดช่องต่อที่ระยะ 30 เมตรจำนวน 2 ช่อง สามารถรองรับความเร็วได้ที่ 25 Gbps หรือ 40 Gbps

นอกจากนี้ สายแลน ยังได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีก เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมทางด้านสื่อสารข้อมูล และ IT  เช่น ระบบ IoT, Could system, Data Center เป็นต้น   สายแลนในปัจจุบันที่ได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ได้แก่ ชนิด CAT6A, CAT7 และ CAT8 จะเห็นได้ว่าในยุคที่ทุกคนต่างพึ่งพาเทคโนโลยีไร้สาย สายแลน ก็ยังคงมีความสำคัญและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่างไรก็ตามความเร็วที่ได้จากสายแลนที่ส่งตรงจาก router ที่รับสัญญาณผ่านสาย Fiber optic ที่ผู้บริการส่งมานั้นก็ยังคงให้ความเร็วที่ดีและเสถียรกว่า และจนกว่าเทคโนโลยีไร้สายจะสามารถส่งสัญญาณได้แรงขึ้น สายแลนก็ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไป และนอกจากสายLan แบบ UTP แล้ว เรายังมีอีกประเภทหนึ่งคือสายประเภท STP หรือ Shielded Twisted Pair ซึ่งเป็นสายที่มีคุณภาพสูง และมีฉนวนป้องกัน ทำให้ทนทาน สัญญาณดี แต่ต้องแลกมาด้วยความหนัก และราคาที่แพงกว่า UTP หรือสาย Lan Unshielded Twisted Pair แบบปกติ

ประเภทของสายแลน

เราสามารถแบ่งประเภทของสายแลนได้ดังนี้

3.1 สายแลนแบบหลักการทำงานแบบเกาะจุด (Point-to-Point)

สายแลนแบบนี้ใช้ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองด้าน โดยมีการเชื่อมต่อแบบตรง (point-to-point) เหมาะสำหรับระยะทางที่สั้น.

3.2 สายแลนแบบแรงกระทำ (Twisted Pair)

สายแลนประเภทนี้มีการจัดเส้นทางของสายทั้งสองเส้นในลักษณะที่มีการห่อหุ้มเพื่อลดการรบกวนจากสายที่อยู่ใกล้เคียง.

3.3 สายแลนแบบแสงใย (Fiber Optic)

สายแลนแบบนี้ใช้แสงใยเป็นสื่อสาร มีความเร็วสูงและทนทานต่อการรบกวน.

3.4 สายแลนแบบไร้สาย (Wireless)

สายแลนไร้สายทำให้เครือข่ายเชื่อมต่อได้โดยไม่ต้องใช้สายทางดิน มีความสะดวกสบายและเหมาะสำหรับการใช้ในสถานที่ที่ยุ่งเหยิง.

3.5 สายแลนแบบ 10 Gigabit Ethernet

สายแลนที่มีความเร็วสูงถึง 10 กิกะบิตต่อวินาที มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสำหรับการใช้ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการสื่อสารที่เร็วและเสถียร

STP ย่อมาจากคำว่า “Shielded Twisted Pair” หรือ “สายแลนแบบแรงกระทำที่มีการห่อหุ้ม” ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของสายแลนที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสารข้อมูล. STP ถูกออกแบบมาเพื่อลดการรบกวนที่อาจเกิดขึ้นในสายแลนในกรณีที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสถานีอื่น ๆ หรือแหล่งรบกวนทางไฟฟ้า.

ลักษณะของ สายแลนแบบ STP

  1. สายแตกแยก (Twisted Pair): เหมือนกับสายแลนแบบแรงกระทำทั่วไป, STP มีการใช้เส้นทางที่มีการทำให้สายทั้งสองแยกจากกันเพื่อลดการรบกวน.
  2. การห่อหุ้ม (Shielding): STP มีการใส่ชั้นกันทำจากวัสดุที่สามารถป้องกันการรบกวนจากรังสีไฟฟ้าได้, เช่น ฟอยล์หรือชั้นกันทำจากโลหะ.
  3. ป้องกันการรบกวน (Interference Prevention): ด้วยการมีชั้นกัน, STP ช่วยลดการรบกวนที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่มีการส่งสัญญาณไฟฟ้าอื่น ๆ.
  4. การใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีรบกวนมาก: STP เหมาะสำหรับการใช้ในสถานที่ที่มีรบกวนไฟฟ้ามาก, เช่น ในที่ที่มีการใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่สามารถสร้างภาวะรบกวนได้.
  5. รองรับการเชื่อมต่อที่เร็ว: STP มีความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูง, ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเครือข่ายที่ต้องการประสิทธิภาพสูง.

การใช้ STP มีความสำคัญในเครือข่ายที่ต้องการความน่าเชื่อถือและป้องกันการรบกวนจากแหล่งต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่อาจมีการสร้างรบกวนไฟฟ้ามากมาย. หากคุณต้องการใช้สายแลนในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดการรบกวนได้, STP อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ

UTP ย่อมาจากคำว่า “Unshielded Twisted Pair” หรือ “สายแลนแบบแรงกระทำที่ไม่มีการห่อหุ้ม” ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของสายแลนที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสารข้อมูล. UTP มักถูกใช้ในที่ทำงานหรือที่บ้านเป็นประจำเนื่องจากมีราคาประหยัดและมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน.

ลักษณะของสายแบบ UTP

  1. สายแตกแยก (Twisted Pair): เหมือนกับสายแลนแบบแรงกระทำทั่วไป, UTP มีการใช้เส้นทางที่มีการทำให้สายทั้งสองแยกจากกันเพื่อลดการรบกวน.
  2. ไม่มีการห่อหุ้ม (Unshielded): UTP ไม่มีชั้นกันหรือการห่อหุ้มเพิ่มเติม, ซึ่งทำให้มีราคาถูกกว่าและง่ายต่อการใช้งาน.
  3. การใช้ในระยะทางสั้นถึงปานกลาง: UTP เหมาะสำหรับการใช้ในระยะทางที่สั้นถึงปานกลาง, เช่น ในเครือข่ายในอาคารหรือที่ทำงาน.
  4. ความสามารถในการรองรับความเร็ว: UTP มีความสามารถในการรองรับความเร็วในการสื่อสารที่สูง, เช่น Fast Ethernet (100 Mbps) และ Gigabit Ethernet (1000 Mbps).
  5. ไม่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีรบกวนมาก: เนื่องจาก UTP ไม่มีการห่อหุ้มเพิ่มเติม, มันอาจไม่เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีรบกวนไฟฟ้ามาก.

UTP เป็นการเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไปในเครือข่ายที่ไม่ต้องการความปลอดภัยจากรบกวนไฟฟ้า และมีความคุ้มค่าเฉพาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการรบกวนไฟฟ้ามากมาย. ในทางตรงกลับ UTP ไม่สามารถป้องกันการรบกวนได้เท่ากับ STP (Shielded Twisted Pair) ที่มีการห่อหุ้มเพิ่มเติมไว้

ใช้สายแลน UTP ยี่ห้อนไหนดี?

ในยุคนี้มีสายแลนหลากหลายยี่ห้อมากมายให้คุณเลือกใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่เองก็ถูกผลิตมาจากทางจีน แต่การตัดสินใจซื้อบางครั้งอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่ผลิต เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีการตรวจมาตรฐานของสินค้าแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราเองได้ให้ความสำคัญอย่างมาก จนสายแลนของ Alfabase ได้รับมาตรฐานการรับรองในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับทั้งโครงการรัฐ และเอกชนมากมายในประเทศไทยที่นำสายของเราไปวางระบบ Network ทั้งนี้เราเองยังเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายสินค้าสายแลน interlink จากทาง Inter Link ทุกประเภทเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าของเราในการนำไปเอาใช้งานตามที่ต้องการ

สายแลน UTP กับสายแสน STP ต่างกันยังไง คุ้มไหมที่จะจ่าย?

สายแลนแบบ STP นั้นมีกระบวกการผลิตที่ยากกว่า และในการใช้งานนั้นมีน้ำหนักที่เยอะ รวมถึงราคาที่สูงขึ้นมากกว่าสายแบบ UTP จากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ สาย UTP เป็นสายที่หาตามร้านทั่วๆไปได้ง่ายกว่ามาก ถึงแม้ว่าจะดูมีกระบวนการผลิตที่ง่ายกว่า แต่สายแลน UTP มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่ามาก เนื่องจากสายดัดโค้งได้ง่าย และนำสัญญาณได้ดี มีคุณภาพ ดังนั้นสายแลน UTP อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานของคุณ

ข้อดีข้อเสียของสายSTP

•ได้รับการป้องกันด้วยการหุ้มฉนวน

• มีความทนทานลดการกวนของสัญญาณได้ดีกว่า

•สามารถเพิ่มแบนด์วิดท์สูงสุดได้ดีกว่า

•ราคาแพงกว่า UTP

• สายประเภท STP มีน้ำหนักที่หนักกว่า UTP

สายแลน คุณภาพจาก ALFABASE

ด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากจะให้ลูกค้าทั้งองกรณ์ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีระบบ Network ที่มีคุณภาพและเสถียรที่สุด เราจึงผลิตสายแลนคุณภาพสูงขึ้นมาเพื่อรองรับสำหรับทุกคน ปัจจุบัน Alfabase มี สายแลน จำหน่ายหลายหลายแบบทั้งสายแลนของ Interlink และของแบรนด์เราเองซึ่งคุณภาพดีสัญญาณไม่ตกได้รับการยอมรับในโครงการหลายๆโครงการในประเทศไทย ทีทั้งแบบเป็นเส้นสำเร็จรูปพร้อมหัวต่อคุณภาพ และสายแลนแบบยกกล่องหลากหลายประเภทอาทิ UTP Cat.5E , UTP Cat.6 อีกทั้งลูกค้าสามารถกำหนดระยะของสายแลนได้ตามต้องการโดยเราคิดราคาตามความยาวของสายแลนแต่ละประเภทหรือจะซื้อแบบยกม้วนก็สามารถทำได้ โดยมีทั้งสาย UTP/STP/FTP Alfabase อยู่เบื้องหลังการให้บริการและผลิตสายในโครงการต่างๆในประเทศมากมาย ทั้งบริษัทใหญ่และขนาดเล็กก็มอบความไว้วางใจให้เราดูแล